หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า ค่าน้ำบอล มาบ้างแล้ว ค่าน้ำบอลเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการแทงบอล เพราะจะบอกถึงความได้เปรียบและเสียเปรียบ และฝีมือการเล่นของแต่ละทีมที่แข่งขันกัน อีกทั้งยังใช้กำหนดอัตรากำไรที่นักพนันจะได้รับหากชนะการเดิมพัน ซึ่งค่าน้ำบอลของแต่ละที่ก็จะไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนแทงบอลคุณควรดู ค่าน้ำ ควบคู่กับกับการดู อัตราต่อรองบอล และเปรียบเทียบ ราคาบอล จากหลายๆ เว็บ หากคุณเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ก็จะทำให้คุณได้เปรียบในการเดิมพัน หากใครยังไม่เข้าใจให้อ่านบทความนี้ แล้วคุณจะเข้าใจมากขึ้น
ค่าน้ำบอล คืออะไร และมีกี่แบบ
ค่าน้ำบอล คือค่าใช้จ่ายที่เว็บแทงบอลเก็บเป็นค่าบริการต่างๆ โดยค่าน้ำจะถูกนำมาคิดเป็นราคาบอลที่อยู่ในบิล ในเว็บแทงบอลค่าน้ำบอลจะอยู่ด้านหลังของอัตราต่อรองบอล เว็บแทงบอลจะกำหนดค่าน้ำของแต่ละทีมแตกต่างกัน อีกทั้งค่าน้ำยังมีหลายแบบ ซึ่งแต่ละเว็บก็จะใช้ค่าน้ำที่ไม่เหมือนกัน แต่ค่าน้ำที่พบเห็นได้บ่อยๆ มี 3 แบบ คือ ค่าน้ำมาเลย์, ฮ่องกง และยูโร
ค่าน้ำมาเลย์ หรือ MY (Malaysia Odds) เป็นค่าน้ำที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย สามารถแบ่งได้ 2 ส่วน คือ ค่าน้ำแดง และ ค่าน้ำดำ ซึ่งค่าน้ำแดงจะใช้ตัวเลขสีแดง และมีเครื่องหมายลบอยู่ข้างหน้า ส่วนค่าน้ำดำจะใช้ตัวเลขสีดำ
- ค่าน้ำแดง หากชนะจะได้เงินเต็มจำนวน แต่ถ้าแพ้จะเสียตามอัตราค่าน้ำ เช่น
แทงเจ้าบ้าน ค่าน้ำแดง -0.73 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้กำไร 100 บาท แต่ถ้าแพ้จะเสียแค่ 73 บาท - ค่าน้ำดำ ถ้าชนะจะได้เงินตามอัตราค่าน้ำ แต่ถ้าแพ้จะเสียเงินเดิมพันเต็มจำนวน เช่น
แทงทีมเยือน ค่าน้ำดำ 0.54 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้กำไร 54 บาท แต่ถ้าแพ้จะเสีย 100 บาท
สรุปคือ ค่าน้ำแดงแทงน้อยแต่ได้เงินมาก ส่วนค่าน้ำดำแทงมากแต่ได้เงินน้อย
ค่าน้ำฮ่องกง หรือ HK (Hong Kong Odds) ค่าน้ำประเภทนี้นิยมเล่นมากที่สุดในเอเชีย เป็นค่าน้ำที่เดิมพันไว้เท่าไหร่ถ้าชนะก็จะได้มากกว่าที่เดิมพัน แต่ถ้าแพ้จะเสียเท่าที่เดิมพันไว้ เช่น
- แทงเจ้าบ้าน ค่าน้ำ 1.36 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้กำไร 136 บาท แต่ถ้าแพ้จะเสีย 100 บาท
- แทงทีมเยือน ค่าน้ำ 0.54 ถ้าชนะจะได้กำไร 54 บาท แต่ถ้าแพ้จะเสีย 100 บาท
ค่าน้ำยูโร หรือ EU (Euro Odds) ค่าน้ำประเภทนี้นิยมเล่นกันในยุโรป ส่วนใหญ่จะมีเลข 1 หรือ 2 นำหน้า และตามด้วยจุดทศนิยม เป็นค่าน้ำที่รวมต้นทุนไว้แล้ว ถ้าชนะจะได้เงินตามอัตราค่าน้ำ แต่ถ้าแพ้จะเสียเท่าที่เดิมพันไว้ เช่น
- แทงเจ้าบ้าน ค่าน้ำ 2.38 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้ 238 บาท แต่เป็นจำนวนที่รวมต้นทุนไว้ด้วย ถ้าหักต้นทุนออกก็จะได้กำไร 138 บาท และถ้าแพ้จะเสีย 100 บาท
- แทงทีมเยือน ค่าน้ำ 1.53 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้ 153 บาท หักต้นทุนออก จะได้กำไร 53 บาท และถ้าแพ้จะเสีย 100 บาท
สรุป ค่าน้ำบอล คืออะไร
ค่าน้ำบอล คือค่าใช้จ่ายที่เว็บแทงบอลออนไลน์ เก็บจากนักพนันที่เข้ามาแทงบอล ซึ่งค่าน้ำบอลก็มีหลากหลายแบบ เว็บแทงบอลแต่ละที่ก็จะใช้ค่าน้ำที่แตกต่างกัน แต่หลักๆ จะมีค่าน้ำ 3 แบบที่นิยมใช้กัน คือ ค่าน้ำ MY, HK และ EU ค่าน้ำ MY จะแบ่งเป็นน้ำแดงและน้ำดำ น้ำแดงแทงน้อยได้มาก และน้ำดำแทงมากได้น้อย ส่วนค่าน้ำ HK และ EU จะคล้ายๆ กัน คือ ถ้าชนะจะได้เงินตามค่าน้ำ แต่ถ้าแพ้จะเสียเท่าที่เดิมพัน แต่แบบ EU จะเป็นจำนวนเงินที่รวมต้นทุนไว้แล้ว ซึ่งเว็บ ยูฟ่าเบท ก็มีค่าน้ำทั้ง 3 แบบให้นักพนันได้เลือกแทง ใครที่อยากลองเล่นค่าน้ำแบบไหนก็มาเล่นที่เว็บนี้ได้ สมัคร @ufa569